Stylish Toiletries

 

เนื่องจากการได้พักที่ Gramercy Park Hotel สุดหรูใจกลางกรุงนิวยอร์ก

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 

โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว

ตกแต่งภายโรงแรมด้วยสไตล์โบฮีเมียนโดย

Julian Schnabel (ผู้สร้างภาพยนตร์ และศิลปินแนวนีโอเอ็กเพรสชั่นนิสซึ่ม)

 

 

ด้วยความไม่ธรรมดาของผู้ตกแต่ง จึงต้องไม่ธรรมดาในทุกส่วนของห้องพัก

อย่างไฟนีออนในห้องน้ำ (ดังภาพ)  ดิมไฟแต่พอสลัว (แต่สามารถเร่งไฟสว่างได้)

ตัดกับโทนสีหม่น และแดงสดของห้องพัก ไม่เหมาะแก่ผู้ไม่นิยมความอึมทึม สลัวๆ

 

ที่จะกล่าวถึงจริงๆ ไม่ใช่ตัวโรงแรม แต่เป็นเครื่องใช้ภายในห้องน้ำ หรือ Toiletries

เพราะที่กราเมอร์ซี่ พาร์ก เขาเชิญบรรณาธิการของนิตยสาร Allure

มาเป็นผู้เลือกสรรเครื่องใช้ในห้องน้ำของโรงแรม

อันว่านิตยสาร Allure เลื่องชื่อในฐานะนิตยสารความงามชั้นแนวหน้าของโลก

เครื่องใช้ในห้องน้ำจึงย่อมไม่ธรรมดา

 

(เรื่องของเรื่องก็เพราะเห็นคนชอบดูว่าเครื่องใช้ภายในห้องน้ำแต่ละแห่งเป็นอย่างไร เก๋ไก๋สักแค่ไหน

บางแห่งก็ใช้ของ Molton Brown, Hermes, Aveda, L’Occitane Asop เป็นต้น

หรือบางแห่งก็ปรุงสูตรเฉพาะ ซึ่งก็ดีไม่แพ้แบรนด์ดัง

และถ้าอันไหน เห็นว่าดี ก็มักจะเก็บกลับบ้าน เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน หรือยามเดินทาง)

 

 

เริ่มจากแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ยี่ห้อ Hamadi (www.hamadibeauty.com)

แบรนด์ดังสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมโดยเฉพาะ

ก่อตั้งแต่สร้างสรรค์ทุกผลิตภัณฑ์โดย Jamal Hamadi ผู้มีชื่อเสียงในหมู่เซเลบริตี้และซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวู้ด

ฮามาดี สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลเส้นผมในแบบพิเศษสุด

ไม่ผสมสารสังเคราะห์ น้ำหอม และสี

เอสเชนเชียลออย และพืชพรรณต่างๆ เป็นออแกนิก 100%

 

เคยติดใจแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ของ L’Occitane มาแล้ว

แต่พอได้ลองใช้ของ Hamadi แล้วล็อกซิทานก็ชิดซ้ายไปเลย

เพราะใช้ในปริมาณไม่มาก แต่ช่วยให้ผมนุ่มลื่นอย่างเห็นได้ชัด

แต่ก็ไม่ลืบแบนอย่างที่แชมพูผมนุ่มลื่นมักทำไม่ได้

ของเขาดีจริงๆ

 

 

ถัดมาประทับใจไม่แพ้กันก็คือสบู่ก่อนยี่ห้อ Lather (www.lather.com)

คือเครื่องประทินผิว และชำระล้างร่างกายจากแคร์ลิฟอร์เนีย

มีกิจการสปาชื่อดังอยู่ในกรุงนิวยอร์กนี่เอง ฉะนั้นเรื่องคุณภาพผลิตภัณฑ์ย่อมไม่ต้องพูดถึง

แต่มาพูดเรื่องสูบก้อนนี้กันดีกว่า

 

ปกติชอบใช้สบู่ก้อนมากกว่าสบู่เหลว

เพราะไม่เหนียวเหนอะหนะ เนื่องจากเป็นคนขี้ร้อน (และขี้หนาวในเวลาเดียวกัน)

เวลาอาบน้ำจึงชอบให้ผิวไม่เหนอะ แต่ก็ไม่แห้งแตก

สบู่ของ Lather ก้อนนี้ ผสมข้าวโอ้ตเอาไว้เพื่อเป็นการขัดผิวไปในตัว

ความพิเศษนอกจากนี้จึงเป็นความแข็งของก้อนสบู่ เรียกว่าแข็งโป๊ก

แต่น่าแปลกที่ให้ฟองเยอะ ผิดกับสบู่แข็งโป๊กแบบถูกๆ

ทำให้การถูและขัด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะใช้ก้อนสบู่ขัดผิวได้เลย

แถมยังใช้ได้นานอีกด้วย

ระวังแต่เพียงอย่างทำตกบ่อย เพราะจะแตกละเอียด!

 

 

ท้ายสุด เมื่ออาบน้ำสระผมเสร็จเรียบร้อย ก็ต้อทาโลชั่นบำรุงผิวครบสูตร

ที่โรงแรมกราเมอร์ซี่ พาร์ก เลือกใช้ Mario Badescu (www.mariobadescu.com)

แบรนด์ดังของนิวยอร์ก

ดังแค่ไหนหรอ ก็แค่ดารา และเซเล็บแทบทุกคนรู้จักและนิยมใช้

ภาพยนตร์และซีรีย์เก๋ๆ ก็มักจะมีเหล่าสกินแคร์ยี่ห้อนี้ทั้งสิ้น

 

ได้ลองโลชั่นนี้ในยามหนาวของนิวยอร์ก (0 องศา)

ก็ประหลาดใจ เพราะเป็นโลชั่น แต่เนื้อเข้มข้นมาก ปกติถ้าอากาศเช่นนี้ ต้องพึ่งครีมอย่างเดียว

โลชั่นชั้นดีอย่างไรก็ช่วยให้ผิวหายแห้งได้ไม่นาน

แต่โลชั่นนี้เอาอยู่สบาย ซึมเร็ว ชุ่มชื่นนาน และที่สำคัญไม่เหนอะ อย่างที่ใครๆ ก็ไม่ชอบ

แหม …เหมือนเป็นหน้าม้าขายของให้เขาเลย

 

แต่มันก็ดีสมกับที่ บก.หนังสือดังเลือกหา และการันตีล่ะนะ